หน้าหลัก
ITA
LPA
ประกาศจากระบบ e-GP
ประกาศจากระบบ e-GP ในเครือข่าย
องค์การบริหารส่วนตำบล เนินมะกอก ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้
ยอมรับ
หน้าหลัก
หน้าหลัก
ข้อมูล
หน่วยงาน
ข้อมูล
หน่วยงาน
บุคลากร
บุคลากร
การบริหาร
บุคคล
การบริหาร
บุคคล
ข่าวสาร
ข่าวสาร
แผน
แผน
รายงาน
รายงาน
ระเบียบ
ระเบียบ
บริการ
ประชาชน
บริการ
ประชาชน
 
ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลเนินมะกอก
"ยึดมั่นธรรมาภิบาล มุ่งบริการประชาชน
ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ รักษาสิ่งแวดล้อม
พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างความเข้มแข็งของชุมชน
เสริมสร้างคุณภาพชีวิต ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง "
วิสัยทัศน์องค์การบริหารส่วนตำบลเนินมะกอก
ผู้บริหารและสมาชิกสภา อบต.เนินมะกอก
นายวสันต์ พรรณภักตรา
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเนินมะกอก
1
2
3
 
 
 


 
รณรงค์การลดใช้ถุงพลาสติกและกล่องโฟม  
 

อันตรายที่แฝงมากับกล่องโฟมและถุงพลาสติก
          กล่องโฟมและถุงพลาสติกที่ใช้บรรจุอาหาร ที่เรารับประทานกันเป็นประจำนั้น มีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย ถ้าเราสังเกตุให้ดี กล่องโฟมบางประเภทจะมีคำเตือนระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “ไม่ควรนำมาใส่อาหารหรือไม่ควรนำมาใส่ของร้อน”
          ส่วนถุงพลาสติกที่ใช้ตามท้องตลาดนั้นมีมากมายหลายประเภท แต่ละประเภทจะมีคุณลักษณะการใช้ที่แตกต่างกัน แต่หากนำถุงพลาสติกมาใช้ผิดประเภทอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้การใช้กล่องโฟมและถุงพลาสติกอย่างผิดประเภท เป็นสาเหตุใหญ่ๆ ที่ทำให้คนไทยป่วยเป็นโรคมะเร็งเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะผู้ชายที่รับประทานเข้าไปมากๆ มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ในขณะที่ผู้หญิงมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม และทั้งสองเพศมีโอกาสสูงที่จะเป็น มะเร็งตับ และยังทำให้สมองมึนงง สมองเสื่อมง่าย หยุดหงิดง่าย ประจำเดือนมาไม่ปกติ โดยเฉพาะบางร้านที่ใช้ถุงพลาสติกรองกล่องโฟมด้วย จะทำไห้ได้รับสารก่อมะเร็งเพิ่มขึ้น 2 เท่า ถ้าถุงที่ใช้นั้นผิดประเภทหญิงมีครรภ์ที่รับประทานอาหารบรรจุในกล่องโฟม ลูกมีโอกาสสมองเสื่อมเป็นเอ๋อ อวัยวะบางส่วนพิการ ส่วนคนทั่วไปถ้ารับประทานอาหารบรรจุกล่องโฟมทุกวัน วันละอย่างน้อย 1 มื้อ ติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี ก็จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งสูงกว่าคนปกติถึง 6 เท่า

ถุงพลาสติกที่นิยมใช้ในท้องตลาด
1. ถุงเย็น มีลักษณะค่อนข้างใส นิ่ม ยืดหยุ่นพอสมควร นิยมใช้บรรจุอาหารแช่แข็ง
2. ถุงร้อน มีลักษณะใสมาก และมีความกระด้างมากกว่าถุงเย็น ไม่ยืดหยุ่น สามารถบรรจุอาหารที่มีไขมันและความร้อนได้ เพราะสามารถทนความร้อนได้ถึงจุดเดือด 100-120 องศาเซลเซียส แต่สำหรับอาหารทอดเสร็จใหม่ ๆ อาจมีอุณหภูมิสูงกว่า ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรพักอาหารทอดให้คลายความร้อน ก่อนบรรจุใส่ถุง
3. ถุงหูหิ้ว หรือถุงก๊อปแก๊ป ส่วนใหญ่เป็นถุงที่ถูกใช้แล้วและนำกลับมารีไซเคิลใหม่ จึงไม่ควรนำไปบรรจุอาหาร โดยเฉพาะอาหารร้อน หรืออาหารที่มีไขมัน เช่น กล้วยทอด ของทอด เพราะจะทำให้สารเคมีในถุงพลาสติกออกมาปนเปื้อนกับอาหาร และเข้าสู่ร่างกาย
4. ฟิล์มหรือถุงพลาสติกห่อหุ้มอาหาร การใช้ฟิล์มยืดปิดภาชนะระหว่างการอุ่นอาหารด้วยเตาไมโครเวฟ สามารถเก็บความชื้น ช่วยให้อาหารร้อนเร็วขึ้นได้ แต่ไม่ควรใช้เพื่อทําให้อาหารสุกและควรระมัดระวังการใช้ฟิล์มยืด อย่าให้สัมผัสกับอาหารโดยตรง ควรห่างกันอย่างน้อยประมาณ 1 นิ้ว เพราะถ้าฟิล์มยืดสัมผัสกับอาหาร ฟิล์มยืดจะได้รับความร้อนสูงและอาจละลายติดอาหารที่จะรับประทานเข้าไปได้ การนำถุงเย็นไปบรรจุอาหารร้อน หรือ นำถุงหูหิ้วไปบรรจุอาหารประเภทต่างๆ ถือเป็นการใช้ถุงที่ผิดประเภท และสามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เมื่อได้รับเป็นประจำจะเกิดการสะสมและก่อให้เกิดมะเร็งได้
กล่องโฟมทำมาจากอะไร
          กล่องโฟมที่ใช้ตามท้องตลาดทั่วไป เป็นของเสียเหลือทิ้ง สีดำๆ จากกระบวนการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ประกอบด้วยสารสไตรีน (Styrene) ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย และสหรัฐอเมริกาได้ประกาศขึ้นบัญชีสารก่อมะเร็งแล้ว
ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคได้รับสารสไตรีนจากกล่องโฟม
1. อุณหภูมิที่ร้อนขึ้นหรือเย็นลง ทำให้สไตรีนซึมเข้าสู่อาหารได้สูง
2. ถ้าปรุงอาหารโดยใส่น้ำมัน น้ำส้มสายชูแอลกอฮอล์ จะดูดสารสไตรีนจากกล่องโฟมได้มากกว่าปกติ
3. ถ้าซื้ออาหารใส่กล่องทิ้งไว้นาน ๆ ไม่ได้รับประทาน อาหารจะดูดสารสไตรีนได้มาก
4. ถ้านำอาหารที่บรรจุโฟมเข้าไมโครเวฟ สไตรีนจะไหลออกมาในปริมาณมาก
5. ถ้าอาหารสัมผัสพื้นที่ผิวกล่องโฟมมาก ๆ รวมถึงร้านไหนตัดถุงพลาสติกใสรองอาหาร ขอบอกว่าได้รับสารก่อมะเร็ง 2 เด้ง ทั้งสไตรีนและไดออกซินจากถุงพลาสติกเลยทีเดียว
วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือ
          การเลือกใช้ถุงพลาสติกและกล่องโฟมให้เหมาะสมกับอาหารที่ใส่หรือถ้าเป็นไปได้ให้ใช้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารในกล่องโฟม แล้วหันไปใช้ภาชนะอย่างใบโอชานอ้อยแทน ซึ่งสามารถทนต่ออาหารที่มีอุณหภูมิสูงๆ ได้ ปลอดสารก่อมะเร็ง และไม่มีผลกระทบต่อระบบประสาทและระบบฮอร์โมน นอกจากนั้นยังสามารย่อยสลายได้ภายใน 45 วัน เป็นการลดโรคร้อนได้ด้วย หรือจะใช้ปิ่นโตแทนจะดีที่สุด

 

ข่าว ณ. วันที่ 27 เม.ย. 2559 เวลา 10.05 น. โดย คุณ เด่นชัย เล็กสิงห์โต

ผู้เข้าชม 2483 ท่าน

 
 
 
 
 
นโยบายเว็บไซต์ | นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล | นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ | นโยบายคุกกี้ | แผนผังเว็บไซต์
Version ขั้นต่ำของ Browser IE9 / Firefox 3.5 / Chrome / Safari4 / Opera10